กลับคำนึงถึงการประยุกต์ใช้ด้วยแนวคิดที่เหมาะสม
Table of Contents
ความรวดเร็วของแอพพลิเคชั่น
การเข้าใจว่าหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับคนได้ออกแบบมาเพื่ออะไรเป็นสิ่งที่สำคัญ รวมไปถึงเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของหุ่นยนต์ในการนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่างๆ
โคบอทเร็วแค่ไหน?
Cobot (โคบอท) ย่อมาจาก Collaborative Robot หรือหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ สิ่งสำคัญคือ การเพิ่มข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและข้อจำกัดต่างๆให้กับหุ่นยนต์เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของมนุษย์ ดังนั้น จึงทำให้เกิดข้อจำกัดทั้งด้านการบรรทุกน้ำหนักและความรวดเร็วในการนำไปประยุกต์ใช้ในระบบงานอัตโนมัติ
เมื่อพิจารณาถึงการนำไปประยุกต์ใช้ คุณควรคำนึงว่า ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น กลับกันหุ่นยนต์ไม่ควรเคลื่อนที่เร็วเกินไป หรือพูดให้ชัดเจนคือ หุ่นยนต์ไม่มีคุณสมบัติที่จะหยุดได้รวดเร็ว ณ เวลาใดที่กำหนดก็ได้ หากคุณต้องการความเร็วสูงสุดเพื่อให้ทันต่อการผลิตที่ตั้งเป้าไว้ ก็อาจจะเป็นการใช้หุ่นยนต์สำหรับงานอัตโนมัติที่ไม่ถูกต้องนัก ซึ่งแน่นอนว่ามีหลากหลายวิธีสำหรับการแก้ไขกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อซื้อเวลามากขึ้น แต่เรากำลังพูดถึงความเหมาะสมสำหรับการนำหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้ในงานอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจึงควรมองหาแอพพลิเคชั่นอื่นต่อไป
คู่แข่งของหุ่นยนต์
ในประเทศไทยมีกระบวนการทำงานที่อาศัยแรงงานมนุษย์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจว่าโดยทั่วไปแล้วผู้ปฏิบัติงานเหล่านี้ประกอบด้วยกำลังแขนสองข้าง ซึ่งงบประมาณสำหรับแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่อ้างอิงจากระดับเงินเดือนของคนไทย โดยมีความคาดหวังว่า หุ่นยนต์อูโบจะสามารถแข่งขันกับมนุษย์ที่มีสองแขนได้ สิ่งนี้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาเมื่อมีการใช้ระบบอัติโนมัติเข้ามาแก้ปัญหา ในบางบริษัทที่มีการทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน ก็เปรียบเสมือนการใช้แขนหุ่นยนต์สองตัว แต่การใช้หุ่นยนต์จะได้เปรียบกว่าตรงที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในเวลาเดียวกัน
ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
แนวปฏิบัติที่ดีคือลองสมมติว่าผู้ปฏิบัติงานเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ หุ่นยนต์ที่มีสองแขนและเซ็นเซอร์จำนวนมาก เช่น การมองเห็น การสัมผัส และการได้ยิน โดยสมองก็คือ CPU ที่เร็วและทรงพลังนั่นเอง ตามหลักการทั่วไปแล้ว แขนหุ่นยนต์ที่นำไปใช้งานจะมีความเร็วประมาณ 70% ตามความเร็วของมนุษย์ โดยเวลาที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากข้อจำกัดในกระบวนการทำงาน เช่น การใช้งานร่วมกันเซนเซอร์ ทิศทางการเคลื่อนที่ และข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
ภูมิหลัง
ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยสำหรับหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับคนได้ตามมาตรฐาน ISO/TS 15066:2016 ะบุข้อกำหนดพื้นฐานด้านความปลอดภัยของหุ่นยนต์ไว้เกี่ยวกับ ระดับของแรงกระทำต่อมนุษย์ ระดับของแรงกระทำส่วนต่างๆของร่างกาย และในเวลา/ ระยะทางเท่าใดที่หุ่นยนต์ต้องหยุดเมื่อพบการชนหรือเมื่อระบบความปลอดภัยเริ่มทำงาน
ทำให้หุ่นยนต์เร็วขึ้นได้อย่างไร?
ด้วยข้อจำกัดด้านความปลอดภัยเป็นสาเหตุให้ต้องจำกัดความเร็วสูงสุดของหุ่นยนต์ในโหมดที่สามารถทำงานร่วมกับคนได้ แต่อย่างไรก็ตามสามารถกำหนดค่าความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ เพื่อให้หุ่นยนต์เคลือนที่ได้เร็วขึ้นในโหมด non-collaborative ซึ่งการตั้งค่าและการเขียนโปรแกรมก็ยังง่ายดายเหมือนเดิม
สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานที่ซับซ้อนได้อย่างไรบ้าง?
การใช้งานที่ซับซ้อนเกินไปในโอกาสที่ไม่เหมาะสมเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด จึงทำให้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติถูกมองว่าไม่ประสบผลสำเร็จ
การใช้งานอย่างเหมาะสมควรเริ่มต้นจากอะไร?
เราพบครั้งว่าหุ่นยนต์ถูกนำไปใช้กับแอปพลิเคชั่นที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มต้นใช้งานหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ทำงานร่วมกับคนได้หรือหุ่นยนต์ประเภทอื่น การจะทำแอปพลิเคชั่นที่ซับซ้อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะต้องใช้เวลานานในการพัฒนาหรือหาเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับงานอัตโนมัติ
พนักงานฝ่ายผลิตบางคนที่ใช้งานโรบอทเป็นครั้งมักจะท้าทายหุ่นยนต์ด้วยงานด้านคุณภาพหรืองานวิจัยและพัฒนา ซึ่งมักจะมีปริมาณงานน้อยและมีความซับซ้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติและมีข้อยกเว้นที่สำคัญบางประการสำหรับเรื่องนี้ แต่นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงไม่สามารถเอาชนะความท้าทายได้ง่ายๆ
การใช้งานดังกล่าวเพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในการผลิตเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมักเป็นสาเหตุให้เกิดความคับข้องใจ ความเรียบง่ายย่อมดีกว่าเพราะจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำงานขั้นแรกให้สำเร็จอย่างรวดเร็วและสร้างการยอมรับต่อเพื่อนร่วมงานในโรงงาน ในภายภาคหน้าสิ่งนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านการผลิตด้วยรากฐานที่มั่นคงจากการประยุกต์ใช้งานที่ง่ายกว่าและประสบผลสำเร็จ
เริ่มต้นอย่างไร?
โดยส่วนมากแล้วการลงทุนในโปรเจคแรกๆ จะมีระยะเวลาคืนทุนที่ไม่ค่อยเป็นไปตามคาดหมาย แต่ เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้นก็ยอมลงทุนเพิ่มเติมไป เพราะในที่สุดแล้วเมื่อมีเกิดการทำงานที่สมบูรณ์แบบ ก็จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น คุ้มค่ากับเงินลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในประโยชน์หลักของหุ่นยนต์ คุณไม่จำเป็นต้องใช้รถยกหรือฐานที่ตั้งขนาดใหญ่ สามารถขนย้ายได้อย่างอิสระและติดตั้งใหม่ได้รวดเร็วและสามารถทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
กฎหลักข้อหนึ่งคือการเลือกใช้งานในเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นควรเริ่มต้นแอปพลิเคชั่นแรกให้เหมาะสมกับหุ่นยนต์หรือระดับทักษะของผู้ใช้งาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
คำแนะนำหลักในการประเมินการนำไปประยุกต์ใช้งานยากๆ คือการหลับตา พาดแขนข้างหนึ่งไว้ด้านหลังแล้วลองจินตนาการถึงการดำเนินงานในปัจจุบันนี้ แล้วคุณจะพบว่าจริงๆ แล้วมีหลายอย่างที่คุณอาจมองข้ามหรือพลาดขั้นตอนใดไป เช่นหากเครื่องจักรที่ต้องการจะขนถ่ายได้หายไป จะมีคนตรวจเช็คบ้างไหม หรือแค่มองสิ่งของต่างๆ แล้วปล่อยผ่าน เป็นต้น
วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าควรเริ่มต้นที่ตรงไหนและจะได้ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดได้ หรือช่วยให้คุณให้คะแนนการนำไปประยุกต์ใช้กับงานอัตโนมัติได้อย่างไร
ภูมิหลัง
ในการเริ่มต้นใช้งาน AUBO และแอปพลิเคชั่นหุ่นยนต์ตัวแรกสร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณไม่ต้องเป็นวิศวกรก็สามารถตั้งค่าใช้งานแอปพลิเคชั่นหลักๆ ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจมากเกินไป จนเกิดการเลือกใช้งานกับแอปพลิเคชั่นที่ซับซ้อน ยากเกินกว่าระดับประสบการณ์
กับดักสำหรับมือใหม่
ผลข้างเคียงจากการใช้หุ่นยนต์ที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปคือการที่คุณสามารถข้ามขั้นตอนในการเรียนรู้ไปมากมายเมื่อเทียบกับการใช้งานแขนหุ่นยนต์หนัก 1,000 กิโลกรัม แอปพลิเคชันจำลองเพื่อความปลอดภัยแบบออฟไลน์มักจะถูกข้ามได้ และการเขียนโปรแกรมกับหุ่นยนต์จริงในโหมดการสอนซึ่งช่วยให้คุณขยับแขนหุ่นยนต์ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวทำให้เกิดความอิ่มเอมใจอย่างรวดเร็ว จุดมุ่งหมายเปลี่ยนจาก “ฉันจะทำให้หุ่นยนต์ทำงานอย่างไร” เป็น “ฉันจะทำให้หุ่นยนต์ทำอะไรดี” ซึ่งจริงๆ เป็นการพัฒนากระบวนการผลิต
ความสำเร็จในขั้นแรกมักเป็นไปได้อย่างรวดเร็วซึ่งลูกค้ามักไม่ได้คาดหวังไว้ก่อน จากการนำเสนอในที่ประชุมทำให้ไอเดียเตลิดไปมากมายและอยากที่ขจัดปัญหาด้านการผลิตที่เลวร้ายที่สุดด้วยการใช้หุ่นยนต์จัดการตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งตามสถิตินั้นต้องมีแอปพลิเคชั่นที่ต้องการโซลูชันที่มีความซับซ้อนสูง
พิจารณาถึงการใช้ประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร?
เมื่อพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์สูงสุดเรากำลังพูดถึง OEE (the overall equipment efficiency)หรือประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรโดยเฉพาะด้านอัตราการเดินเครื่องและด้านการใช้งาน เมื่อกล่าวถึง OEE เรามักจะมองถึงปัญหาด้านอัตราการเดินเครื่องจักรหรือไลน์การผลิต ลองสมมติสถานการณ์ว่าเราต้องการเพิ่มเวลาการทำงานสูงสุดให้หุ่นยนต์และผลที่มีต่อ OEE
ชั่วโมงการทำงานของมนุษย์
เรากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของหุ่นยนต์ในการขนถ่ายเครื่องจักรการผลิต และต้องการเพิ่มการใช้ประโยชน์สูงสุดอิงจากการตั้งค่าที่หนึ่งกะทำงาน โดยทั่วไปเมื่อมนุษย์ทำงานจะต้องมีช่วงเวลาพักแต่นั่นไม่จำเป็นสำหรับหุ่นยนต์ แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติในไทยที่จะทำงาน 10 หรือ 12 ชั่วโมงแต่การใช้ประโยชน์สูงสุดจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อหุ่นยนต์ได้ทำงานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
จากตัวอย่างนี้การลงทุนของเราคำนวณจากเวลาการใช้งาน 9 ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 7.5 ชั่วโมง ซึ่งทำงานต่อเนื่องตลอดช่วงพักหนึ่งชั่วโมงรวมก่อนและหลังการพักอีกครั้งละ 15 นาที อย่างไรก็ตามการทำงานจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อการใช้งานหุ่นยนต์ไม่ถูกขัดจังหวะด้วยสิ่งอื่นๆ เช่น วัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตไม่เพียงพอหรือกำลังการผลิตไม่เพียงพอ
การจัดหาวัตถุดิบในไลน์การผลิตอัตโนมัติ
ตัวอย่างที่น่าสนใจอีกตัวอย่างหนึ่งคือเมื่อหุ่นยนต์อยู่ในไลน์เดียวกันกับเครื่องจักรที่ใช้ผลิต เช่นในงานตรวจสอบวัตถุดิบ หุ่นยนต์จะทำงานขณะวัตถุดิบถูกป้อนเข้าไปในเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดอย่างเหมาะสมเมื่อไม่มีการรบกวนการลำเลียงวัตถุดิบเพราะกระบวนการจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแม้ในเวลาพัก
การจัดหาวัตถุดิบกับการสำรองวัตถุดิบ
อีกสิ่งที่ต้องพิจารณาคือวัตถุดิบสำรองทั้งก่อนและหลังใช้อูโบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่วัตถุดิบสำรองต้องมีในสต็อกอย่างเพียงพอหุ่นยนต์จึงจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นี่เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการใช้งานให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด เพราะบ่อยครั้งที่ระยะเวลาผลิตสั้นมักจะไม่มีวัตถุดิบสำรองเพียงพอให้แขนหุ่นยนต์ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง
อัตราค่าล่วงเวลาของหุ่นยนต์
แนวคิดเพิ่มเติมทั่วไปในการเพิ่มการใช้ประโยชน์สูงสุด คือการขยายเวลาการผลิตในส่วนการทำงานของหุ่นยนต์หลังสิ้นสุดกะแรก หากหุ่นยนต์สามารถทำการผลิตได้เป็นจำนวนมากแล้ว การเพิ่มชั่วโมงการผลิตมากกว่าหนึ่งกะโดยให้หุ่นยนต์ทำงานล่วงเวลาก็เป็นสิ่งที่พึงทำได้ เมื่อเทียบหุ่นยนต์กับแรงงานมนุษย์แล้วอัตราจ้างจะถูกกว่ามาก โดยเฉพาะค่าไฟ
จากข้อมูลดังกล่าว การที่หุ่นยนต์ทำงานทำงานได้อย่างต่อเนื่องสองกะ โดยไม่ต้องหยุดพัก ถือประโยชน์สูงสุด
ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
ลองหาการประยุกต์ใช้ที่หุ่นยนต์ไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในการขนส่งวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆในไลน์ผลิตหรือการจัดหาวัตถุดิบโดยอัตโนมัติ หรือจะเป็นกระบวนการที่กินเวลายาวนานซึ่งมีการหมุนเวียนของวัตถุดิบปริมาณต่ำ หรือเทียบเท่ากับการมีวัตถุดิบสำรองเพียงพอทั้งขาเข้าและขาออก
ภูมิหลัง
การคำนวณ ROI (return of investment) หรือผลตอบแทนจากการลงทุนขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของกระบวนการ นอกจากรอบเวลาแล้วยังอิงจากเวลาที่เหลือจากกรอบระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะบรรลุผล ROI ที่ต้องการคือการหาวิธีการประยุกต์ใช้งานหุ่นยนต์ที่จะทำให้ประหยัดเวลาในการทำงานมากที่สุด
พิจารณาเงินทุนสำรองอย่างไร?
เงินทุนสำรองเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญแต่มักถูกมองข้าม เนื่องจากยังไม่มีความเข้าใจอันดีถึงผลกระทบของมัน
คุณภาพ
สิ่งที่จะทำให้เข้าใจเรื่องเงินทุนสำรองได้ง่ายขึ้นคือความมีเสถียรภาพของหุ่นยนต์ที่ส่งผลด้านคุณภาพ เปรียบเสมือนการเริ่มต้นการทำงานในเช้าวันจันทร์ที่คุณภาพในการทำงานจะด้อยกว่าในวันอื่นๆ เป็นสมการที่แปรผันส่งผลกระทบต่อกระบวนการและคุณภาพการผลิต
ค่าใช้จ่าย
ปัจจัยอื่นๆ อาจดูเหมือนว่าเห็นได้ชัดแต่ก็ถูกมองข้ามไปง่ายๆ เช่นกัน เช่นไฟที่เปิดอยู่ในส่วนการผลิตขณะที่หุ่นยนต์กำลังทำงานโดยลำพัง คุณสามารถปิดไฟเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าได้ หรือหากคุณทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีตู้เป่าลมบริเวณทางเข้า การลดจำนวนทางเข้าลงตามจำนวนภารกิจเป็นการประหยัดอีกอย่างหนึ่ง พูดกันตามตรงนี่เป็นสิ่งที่คนภายนอกมักสังเกตเห็นได้ง่ายกว่า
ใครเป็นผู้รวบรวมข้อมูลการผลิตปริมาณมหาศาล?
โดยส่วนตัวคิดว่าคุณลักษณะของหุ่นยนต์ที่ถูกมองข้ามมากที่สุดการสร้างความสะดวกสบายแก่โรงงานด้วยการสร้างข้อมูลอันมีค่า เช่น การนับชิ้นส่วนที่ผ่านเครื่องจักร การคำนวณระยะเวลาผลิต การคำนวณกระบวนการที่จำกัดผลผลิตและอื่นๆ
หลายครั้งที่ลูกค้าต้องการพิจารณาไปถึงข้อมูลเชิงลึกและระบบที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการที่หุ่นยนต์สามารถเชื่อมต่อและใช้เพื่อการสร้างข้อมูลที่ต้องการได้ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมนัก นี่เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างมากจากสเตชั่นที่ดำเนินการโดยมนุษย์ในไทยซึ่งยังคงสร้างข้อมูลแบบแมนวลอยู่ โดยทั่วไปแล้วข้อมูลที่ได้ไม่น่าเชื่อถือและมักจะได้ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้องและอาจส่งผลกระทบมากกว่า อิงจากข้อมูลจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาด้านคุณภาพ ในขณะเดียวกันนั้นที่หุ่นยนต์ถูกนำไปใช้งานอื่นๆเป็นหลัก ข้อมูลจากหุ่นยนต์จะช่วยให้สามารถติดตามและประเมินผลหรือแม้แต่แก้ไขปัญหาผลผลิตเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้
ต้องเผชิญเรื่องวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ลดลงหรือไม่?
ข้อดีอีกประการหนึ่งของหุ่นยนต์คือเป็นสินทรัพย์ที่มีความยืดหยุ่นเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องจักรอื่นๆ หรือหุ่นยนต์ที่มีอัตราการบรรทุกสูง ผู้ใช้งานจำนวนมากกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์หรือแม้แต่วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักที่จะใช้เครื่องจักรเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง เพราะโดยมากแล้วเครื่องจักรเหล่านี้จะล้าสมัยใน 1-2 ปี อาจจะแย่กว่านั้นหากสินทรัพย์อยู่ภายใต้โครงการของ BOI (Board of Investment) หรือคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งกำหนดให้คุณใช้สินทรัพย์เป็นเวลา 5 หรือ 8 ปี
ในหลายพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเปิดตัวสินค้าหรือกระบวนการใหม่ๆ จะช่วยประหยัดเงินได้มากและอาจจะมียอดขายสูง หากคุณสามารถผลิตได้เร็วกว่าและลูกค้าของคุณเข้าสู่ตลาดได้ก่อน ยอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นระหว่างวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์นี้ วิธีนี้ใช่แค่เลือกหุ่นยนต์สำหรับการลด COGS (Cost of Goods Sold) หรือต้นทุนขายแต่ยังได้รับผลกำไรเพิ่มเติมอีกด้วย
ความยืดหยุ่นระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิต เนื่องด้วยต้นทุนแรงงานคนที่ต่ำและคุณภาพของผลผลิต มีพื้นที่การผลิต การใช้แรงงานจำนวนมากในกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการหนึ่ง ๆ มีความยืดหยุ่น แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น เวลาในการฝึกอบรมก่อนลงมือปฏิบัติงานจริง และการสูญเสียผลผลิตที่สูงขึ้นในช่วงการเพิ่มกำลังการผลิต แตกต่างกับระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติที่ได้รับการปรับแต่งให้สามารถทำงานได้คุณภาพตามที่ต้องการ เพียงคัดลอกและวางเท่านั้น จึงเป็นการลงทุนกับเงินเงินทุนที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อจะเพิ่มผลประโยชน์มากขึ้นระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติอันแรกควรอยู่ในแผนก RnD (Research and Development) หรือการวิจัยและพัฒนา หรือ NPI (New Product Implementation) หรือการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ไปใช้ ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สร้างตัวอย่างของลูกค้าและประเมิน COGS การที่สามารถกำหนดกระบวนการผลิตจริงได้ตั้งแต่เนิ่นๆจะทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นหรือแม้แต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น
ตัวอย่างการใช้งานผลิตภัณฑ์ใหม่
ตัวอย่างที่ดีในเคสนี้คือการผลิตสินค้าที่ทำจากน้ำยางเช่น ถุงมือ เป็นต้น ไลน์การผลิตจริงนั้นค่อนข้างเยอะสำหรับการผลิตจำนวนมากดังนั้นผลิตภัณฑ์ใหม่จึงมักทำด้วยมือ การใช้หุ่นยนต์ซึ่งทำงานด้วยขั้นตอนซ้ำซ้อนได้อย่างแม่นยำตามจำนวน ทั้งยังสามารถปรับพารามิเตอร์ในขณะที่ติดตามพารามิเตอร์อยู่นั้นสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างมาก
การออมเงินสำรองในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่รวมถึงในอีกหลายกรณีที่ไม่ควรหยุดไลน์ผลิตหลักเพื่อสร้างตัวอย่างสินค้าใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดอัตราการทำงานโดยรวมสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
ข้อแนะนำแรกคือการหากระบวนการที่ทำให้เกิดการเสียผลประกอบการขึ้นบ่อยครั้งซึ่งสามารถเชื่อมโยงได้ถึงความผันแปรของประสิทธิภาพของผู้ปฏิบัติงาน โดยส่วนมากแล้วเป็นงานที่ต้องทำด้วยกระบวนการซ้ำๆ ซึ่งระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติจะเหมาะสมกับงานนี้มากกว่า
ข้อแนะนำอีกประการหนึ่งคือการหาสิ่งที่หุ่นยนต์สามารถทำได้แต่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ตัวอย่างที่ดีคือการทำงานในที่มืดหรือมีสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อมนุษย์หรือไม่ควรทำในระยะเวลานาน อีกตัวอย่างหนึ่งคือการให้หุ่นยนต์เริ่มงานก่อนผู้ปฏิบัติงานโดยตั้งโปรแกรมเวลาที่ให้เริ่มงานไว้หรือกดรีโมท ในการใช้แรงงานมนุษย์จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายซึ่งหมายความว่าแบบนี้จะประหยัดเงินได้
อย่างไรก็ตามข้อแนะนำหลักคือการมองผลประโยชน์ที่สำคัญต่อธุรกิจจากระบบธุรกิจอัจฉริยะโดยใช้หุ่นยนต์ในการรวบรวมข้อมูลเป็นอีกงานรอง ข้อมูลดังกล่าวช่วยปรับปรุงความเร็วในการตอบสนองด้านคุณภาพและข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มผลผลิต ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลแก่ฝ่ายบริหารเพิ่มเติมเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้นจาก COGS ของผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือประสิทธิภาพการผลิตและกำลังการผลิต
ภูมิหลัง
เรามักจะพบการคำนวณ ROI ที่ผิดพลาดจากการคำนวณการลงทุนของหุ่นยนต์ ที่เทียบกับค่าใช้จ่ายของผู้ปฏิบัติงานหรือเงินเดือนโดยตรงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย บ่อยครั้งเงินทุนสำรองก็ช่วยลดต้นทุนในการลงทุนและเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับธุรกิจโดยรวมในประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับความคิดริเริ่มของโรงงานอัจฉริยะ (smart factory) หรือโครงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง หุ่นยนต์กลายเป็นก้าวแรกที่ยอดเยี่ยมหรือความประสบความสำเร็จอันรวดเร็ว เนื่องจากหลายๆสิ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีหุ่นยนต์หรือข้อมูลที่มันสร้างขึ้น
จะทำให้การใช้งานหุ่นยนต์ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
คำแนะนำของเราจะแตกต่างไปตามประสบการณ์ที่มีต่อหุ่นยนต์ของแต่ละคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่เรื่องหุ่นยนต์หรือได้เริ่มใช้งานจนเสร็จไปแล้วและคุณต้องการหุ่นยนต์เพิ่มหรือสนใจในเรื่องผลประโยชน์จากการใช้หุ่นยนต์มากขึ้น บางทีอาจจะประสบกับการใช้งานที่ไม่สัมฤทธิ์ผลดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจในการไม่ประสบผลสำเร็จในการใช้ครั้งแรก
โดยทั่วไปแล้วส่วนที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดเป้าหมายสูงสุด บ่อยครั้งเป้าหมายคือการประหยัดต้นทุนเพราะสิ่งนี้เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีต่างๆ คำแนะนำของเราคือในขั้นต้นควรเลือกการประยุกต์ใช้งานอย่างง่าย จากนั้นจึงตั้งเป้าหมายที่ท้าทายขึ้นในขั้นถัดไป สิ่งสำคัญคือต้องรักษาแรงจูงใจและความตื่นเต้นที่ได้จากหุ่นยนต์และไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจ เพราะเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่เราอาจไม่พร้อมรับมือ หลักการขั้นต้นที่ต้องคำนึงถึงไว้คือหากการพยายามครั้งแรกไม่สำเร็จ เราสามารถปรับเปลี่ยนไปประยุกต์ใช้ในวิธีที่ได้ผลมากกว่าได้เสมอ ดังนั้นจึงไม่ใช่การลงทุนโดยเสียเปล่าและยังทำให้ประสบความสำเร็จได้
ในทางที่ดีกว่านั้นคือการเลือกการประยุกต์ใช้ที่ดีที่สุดและวิธีการเข้าถึงที่ดีที่สุด หมายถึงคือการพิจารณาถึงขีดความสามารถและการตัดสินใจว่าควรบูรณาการเข้ากับทรัพยากรภายในหรือควรใช้ทรัพยากรภายนอกในครั้งแรกหรือการบูรณาการทั้งหมด
ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็ตามที่กล่าวมานั้นเราจะให้การสนับสนุนด้วยวิธีต่างๆ โดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์ของเราจะประกอบด้วยวิดีโอช่วยสอนและวิดีโอฮาวทูจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือในด้านการบูรณาการไปจนถึงวิดีโอสอนวิธีการใช้งานอย่างเป็นลำดับ ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษสามารถติดต่อมาได้ที่เพจหรือไปที่ Youtube ได้เลย ในวิดีโอของเรามักจะเสนอแนวทางปฏิบัติซึ่งช่วยให้การบูรณาการง่ายขึ้น
หากต้องการความช่วยเหลือนอกสถานที่ เรามีเครือข่ายของผู้จัดจำหน่ายและผู้ออกแบบติดตั้งระบบและเครื่องจัรกในไทย ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือแก้ปัญหาหรือจัดเตรียมการตั้งค่าเทิร์นคีย์ รายชื่อของหุ้นส่วนดังกล่าวอยู่ในเว็บไซต์พร้อมคำบรรยายสั้นๆ เพื่อเป็นตัวเลือกหากคุณต้องการติดต่อไปโดยตรงหรือจะติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำได้
ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
เราแนะนำให้มีการพูดคุยกันโดยตรงกับเราหรือผ่านทางหุ้นส่วนของเรา เพื่อที่เราจะสามารถช่วยประเมินความเสี่ยงในการบูรณาการ ให้คำแนะนำหน้างานด้านความเป็นไปได้หรือสอนงานในส่วนที่คุณต้องการ โดยมากแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นใช้หุ่นยนต์คือการรวมระบบครั้งแรกเข้าด้วยกัน หรือผ่านการฝึกอบรมภาคปฏิบัติกับการใช้งานมาตรฐานของเรา เช่น CNC machine loading หรือ PCB tester loading
ภูมิหลัง
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการรวมระบบ รวมไปถึงการสนับสนุนจากผู้ผลิตและหุ้นส่วนในไทยของเรา เราให้ข้อมูลเชิงลึกและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อทำการใช้งานหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับคนได้ง่ายขึ้น ในฐานะที่เป็นธุรกิจท้องถิ่นในไทยเราเข้าใจถึงความท้าทายที่ลูกค้าต้องเผชิญ การมีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ในมือนั้นทำให้เราสนองความต้องการได้ครอบคลุมทุกการบูรณาการ
ขั้นตอนต่อไป
เดินสำรวจโรงงานของคุณ เปิดตาและเปิดใจให้กว้าง จดบันทึกสิ่งที่ต้องการและใช้หลักเกณฑ์ที่เราได้เสนอแนะข้างต้น หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาหารือ ขอคำแนะนำ การฝึกอบรมการใช้งาน ด้านบริการ หรืออื่นๆ กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านล่าง เพื่อนัดหมายพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติม เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน
ในกรณีที่คุณต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิกที่ข่าวและบล็อกของเราเพื่อค้นหาข้อมูล หากไม่ปรากฎข้อมูลที่ต้องการ กรุณากรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อเรา ทางเราจะตรวจสอบและตอบข้อสงสัยของท่านโดยเร็วที่สุด